เคมีดีต่อใจ! ไรอัน กอสลิ่ง และ เอมิลี บลันท์
พูดถึงการสร้างเส้นเรื่องโรแมนติกใน The Fall Guy
หากดูจากภายนอกแล้ว The Fall Guy หรือ สตันท์แมนคนจริง อาจจะดูเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ธรรมดาเรื่องหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังของมันถูกผลักดันด้วยเรื่องราวของความรัก ทั้งความรักในอาชีพสตันท์แมน และความรักระหว่างตัวละคร โคลท์ ซีเวอร์ส ของ ไรอัน กอสลิ่ง และ โจดี้ โมเรโน่ ของ เอมิลี บลันท์
โดย ซีเวอร์ส เป็นสตันท์แมนตกยุคที่ถูกดึงตัวมาทำงานในภาพยนตร์เรื่องแรกที่ โมเรโน่ อดีตแฟนสาวของเขาเป็นผู้กำกับ โดยงานที่เขาได้รับมอบหมายก็คือ การออกตามหาตัวนักแสดงนำของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่หายตัวไป แต่ความยุ่งยากก็เกิดขึ้น เมื่อนักแสดงคนดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา อีกทั้งความสัมพันธ์ของ ซีเวอร์ส กับอดีตแฟนสาวก็ยังไม่ราบรื่นนัก
โดย กอสลิ่ง และ บลันท์ เปิดเผยว่าทั้งคู่ได้ใช้การแสดงแบบด้นสดเพื่อที่จะทำให้เคมีความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองออกมาเป็นธรรมชาติให้ได้มากที่สุด โดยนักแสดงหญิงชาวอังกฤษได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า
“พวกเราก็แค่ต้องการให้มันเข้าถึงผู้ชมให้ได้มากที่สุด และทำให้รู้ด้วยว่าทั้งสองคนยังอยู่ในช่วงที่วุ่นวายกันอยู่ ทั้งสองไม่ได้มีบทพูดในฝันเหมือนกับที่ฉากโรแมนติกปกติมักจะใช้กัน”
“และนั่นมันก็รู้สึกเหมือนกันชีวิตจริงมากกว่า และฉันก็อยากที่จะให้ โจดี้ เป็นตัวละครที่สามารถสัมผัสถึงได้ง่ายด้วยเช่นกัน แล้วก็ค้นพบว่า ไรอัน อยากที่จะทำเรื่องนี้ในแบบที่คล้ายกันกับฉัน ทำให้เราสามารถทำอะไรแบบไม่ต้องมีแผนการได้ อีกทั้งเรายังปรับเปลี่ยนมันได้ หรือบางทีมันก็สามารถเปลี่ยนทิศทางไปได้เลยโดยไม่มีปัญหาอะไร”
“ฉันเชื่อใจเขามากในเรื่องนั้น และถ้าหากคุณทุ่มเททำทุกอย่างลงไป คุณก็จะได้เห็นว่าอะไรมันเกิดขึ้นบ้าง มันถูกสร้างขึ้นมาเป็นคู่รักที่คุณสามารถเอาใจช่วยได้ และก็ยังเป็นคู่รักที่ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบอีกด้วย”
ในขณะที่นักแสดงชายจากไลฟ์แอ็กชัน Barbie (2023) หรือ บาร์บี้ ก็ได้ออกมาเสริมว่า ทั้งสองคนได้ใช้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในกองถ่ายในแต่ละวัน ใส่ลงไปในการแสดงด้วย
“พวกเราต้องการที่จะทำให้มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังทำหนังอยู่จริง ๆ”
“ดังนั้น พวกเราจึงเริ่มดึงเอาสิ่งที่เกิดขึ้นในกองถ่ายมาใช้ ถ้าหากว่าเราอยู่ในระหว่างการซ้อมบท และ เอมิลี สวมหมวกใบใหญ่ที่กำลังจะถูกพัดปลิวด้วยแรงลมจากเฮลิคอปเตอร์ด้านหลัง มันเป็นสิ่งที่ทำให้คิดเลยว่า ‘โอ้ นั่นมันควรจะเข้าไปอยู่ในฉากนะ’ เธอชี้นิ้วเป็นรูปปืนยิงมาที่ผม แล้วเธอก็คิดได้ว่าไม่ควรทำมันเลย แต่มันก็ยังคงเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยม แล้วเราก็คิดเหมือนกันเลยว่า ‘เอาล่ะ นั่นมันควรจะเข้าไปอยู่ในฉากนะ’ ดังนั้นอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำ ก็ได้กลายมาเป็นสิ่งที่เรานำเอาไปใส่ในหนัง”
ทั้งสองยังบอกอีกด้วยว่า ผู้กำกับ เดวิด ลิตช์ ก็ไม่ได้ต่อต้านวิธีการทำงานแบบนี้แต่อย่างใด เนื่องจากผู้กำกับคนนี้เคยทำงานเป็นสตันท์แมนมาก่อน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยวิธีการดัดแปลงเสริมอะไรใหม่ ๆ เข้าไปจึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้แย่สำหรับเขา
The Fall Guy หรือ สตันท์แมนคนจริง เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้
สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Total Film