เจาะวินาทีระทึก! เรื่องจริง เมื่อเขาต้องติดอยู่บน
ยอดเขา เอเวอร์เรสต์ ในวันที่พายุถล่มหนัก
มันเป็นเช้าที่งดงามและสดใสในวันที่ 10 พฤษภาคม ปี 1996 ที่ร็อบ ฮอล หัวหน้าทีมของแอดเวนเจอร์ คอนซัลแทนท์ในนิวซีแลนด์ ผู้รอบคอบและระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย และสก็อต ฟิชเชอร์ นักปีนเขามากประสบการณ์และหัวหน้าทีมของเมาน์เทน์ แมดเนสในซีแอตเติล ได้นำทีมของพวกเขาออกเดินทางครั้งสุดท้ายขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก นั่นคือยอดเขา เอเวอร์เรสต์ ที่อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 29,029 ฟุต (8,848 เมตร)...หรือระยะบินของเครื่องโบอิ้ง 747 นั่นเอง ทั้งสองทีมใช้เวลาสองเดือนที่ผ่านมาในการปีนภูเขายักษ์ใหญ่นี้ โดยพวกเขาค่อยๆ ปรับตัวให้เคยชินกับสภาพอากาศหนาวจัดและอากาศที่เบาบางที่ระดับความสูงนี้ พวกเขาต้องเจอกับสภาพอ็อกซิเจนที่เบาบางถึงขนาดที่เพียงแค่การเดินก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยแสนสาหัส
นักปีนเขาสามคนในทีมของฮอลและเชอร์ปาสองคนได้ปีนขึ้นสู่ยอดเขาในวันนั้น แต่โดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้า เกิดพายุร้ายโหมกระหน่ำด้วยความรุนแรงพอๆ กับเฮอร์ริเคน มันได้ถาโถมเข้าใส่นักผจญภัยขณะที่พวกเขากำลังลงจากภูเขา ขณะที่พายุยังคงโหมแรงและความมืดเริ่มเข้าปกคลุมพื้นที่ ในขณะเดียวกัน การดิ้นรนเอาชีวิตรอดกำลังเกิดขึ้นที่ต่ำลงไปอีก 2,789 ฟุต (850 เมตร) ที่เซาธ์โคล เบ็ค เวทเธอร์ส แพทย์ชาวเท็กซัสที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมแอดเวนเจอร์ คอนซัลแทนท์ ต้องประสบกับอาการตาบอดจากหิมะขั้นรุนแรงระหว่างที่เขากำลังปีนขึ้นสู่ยอดเขา เมื่อหลายปีก่อน เขาเคยเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขสายตา และบัดนี้ ระหว่างที่เขากำลังปีนผ่าน “เดธโซน” ของยอดเขา เอเวอร์เรสต์ ที่ซึ่งอ็อกซิเจนเบาบางจนร่างกายมนุษย์จะหยุดการทำงานของระบบอวัยวะสำคัญๆ สายตาของเขาก็เริ่มเลือนราง ทำให้เขามองเห็นเพียงภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาสองหรือสามฟุตเท่านั้นเอง
ฮอลให้เวทเธอร์สสัญญากับเขาว่าจะไม่ปีนขึ้นเขาต่อ และบอกให้เขานั่งรอให้เขากลับจากยอดเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้ปีนลงเขาไปด้วยกัน อย่างไรก็ดี ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาหยุดพักการปีนขึ้นเขา เวทเธอร์สก็ต้องเผชิญกับพายุที่โหมกระหน่ำ และเขาก็ต้องดิ้นรนที่จะปกป้องตัวเองจากความเหน็บหนาวที่ทิ่มแทงเข้ามา
ในสิ่งที่ถูกเรียกภายหลังว่าเป็นปาฏิหาริย์ของนักปีนเขา เวทเธอร์สสามารถฟื้นตัวได้ และแม้สายตาของเขาจะเลือนราง และประสบกับปัญหาอาการหิมะกัดและอาการแข็งที่มือไปจนถึงข้อมือ เขาก็สามารถเดินโซซัดโซเซไปจนถึงเต็นท์ของแคมป์สี่ได้ในบ่ายวันถัดมา หนึ่งวันหลังจากนั้น เขาก็ถูกพาตัวลงจากภูเขาสู่แคมป์หนึ่ง (19,800 ฟุต/6,035 เมตร) โดยทีมกู้ภัยที่ประกอบด้วยนักปีนเขาจากทีมปีนเขาอื่นๆ คนที่อยู่ในที่นั้นกล่าวว่าเวทเธอร์สมีสภาพเหมือนศพที่เดินได้
ผู้ที่อยู่บริเวณนั้นด้วยในเวลานี้คือกาย คอตเตอร์ ผู้นำทางอีกคนหนึ่งของแอดเวนเจอร์ ผู้กำลังนำทีมเดินทางบนภูเขาปูโมรีที่อยู่ติดกัน คอตเตอร์ติดต่อกับฮอลทางวิทยุตลอดทั้งวันนั้น และเมื่อพายุเกิดขึ้น เขาก็ตระหนักดีว่าเพื่อนรักของเขาตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายมากแค่ไหน
เช้าวันต่อมา เขาได้ปีนไปสู่เบสแคมป์ของยอดเขา เอเวอร์เรสต์ (17,500 ฟุต/5,534 เมตร) เพื่อเสนอความช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ คอตเตอร์พยายามที่จะจัดการให้มีการช่วยเหลือฮอล แต่เชอร์ปาสองคนที่ปีนขึ้นไปหาฮอลจำใจต้องหันหลังกลับ ก่อนจะถึงตำแหน่งของเขาเพียง 350 ฟุต (106.7 เมตร) ด้วยความเหนื่อยล้าและไม่อาจไปต่อได้ เห็นได้ชัดว่าความพยายามในการกู้ภัยและพายุได้ส่งผลกระทบต่อทุกคน ไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะนำฮอลลงมาจากเนินสูงที่อันตรายของภูเขาลูกนี้ และความพยายามที่จะช่วยเหลือเขาก็ถูกล้มเลิก ท้ายที่สุด ผู้รอดชีวิตที่อยู่บนเซาธ์โคลก็ลงจากภูเขาอย่างเหนื่อยล้าด้วยความช่วยเหลือจากเชอร์ปาของพวกเขา
พีช เวทเธอร์สและลิซา โค้กยัล ผู้อาศัยอยู่ในเมืองกาฐมาณฑุเป็นเวลานาน ได้ร่วมมือกับสถานทูตสหรัฐฯ เพื่อขอเฮลิคอปเตอร์ทหารของเนปาลมาช่วยเหลือเบ็ค สามีของเวทเธอร์ส และนักปีนเขาอีกคนหนึ่ง ลงมาจากยอดของไอซ์ฟอล ที่ระดับความสูง 19,685 ฟุต (6,000 เมตร) การช่วยเหลือครั้งนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในความพยายามที่ท้าทายที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นท่ามกลางเทือกเขาของเนปาล
เวทเธอร์สรอดชีวิตมาได้ แต่พายุครั้งนั้นได้คร่าชีวิตของฮอล, ฟิชเชอร์, แฮร์ริส, ฮันเซนและนัมบะ รวมถึงนักปีนเขาอีกสามคนจากกลุ่มที่ประกอบไปด้วยตำรวจตระเวนชายแดนอินโด-ทิเบต ซึ่งเป็นทีมอินเดียชุดแรกที่ขึ้นถึงยอดเขาจากนอร์ธโคล (23,031 ฟุต/7,020 เมตร) ในเวลานั้น มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของยอดเขา เอเวอร์เรสต์
เรื่องราวความอดทน ความพลิกแพลงและความทะเยอทะยานที่ไร้ขอบเขตของมนุษย์ เหตุการณ์ที่ถูกบอกเล่านี้ได้ปลุกเร้าจินตนาการของสื่อมวลชนและผู้คนทั่วโลก เรื่องเล่าของผู้รอดชีวิตผู้กล้าหาญและนักผจญภัยผู้หลงทางเป็นตำนานที่ยังคงได้รับการขับขานมาจนถึงปัจจุบัน
เตรียมสัมผัสเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงกับวินาทีชีวิต บนจุดสูงสุดของโลก ใน Everest
24 กันยายนนี้