เปิดคลังอาวุธทำลายล้างจาก ตัวร้ายในหนัง 007 ก่อนพบอาวุธใหม่ใน No Time To Die

โหดโคตร! แฉอาวุธตัวร้ายในหนัง 007

 

 

แปลและเรียบเรียงโดย Aye, Ms. You.
ที่มา Jamesbond.wikia.com

 

ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์กรร้ายข้ามชาติสุดร้ายกาจ แถมยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของ เจมส์ บอนด์ สายลับมือดีสัญชาติอังกฤษแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าสมาชิก SPECTRE ย่อมพกอาวุธที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและพิษสงเหลือร้ายเอาไว้ฆ่าศัตรูเล่นอยู่แล้ว และจากการปรากฏตัวครั้งแรกใน Dr. No (1962) จนถึงปัจจุบัน นี่คือ 10 สุดยอดอาวุธสารพัดพิษของ SPECTRE ที่อำนวยให้การลอบสังหาร หรือการฆ่าคนนั้นง่ายดั่งใจนึก!

 

 

 

บุหรี่ผสมไซยาไนด์

บุหรี่ผสมยาพิษไซยาไนด์ถูกใช้เป็นเครื่องมือฆ่าตัวตายของ โจนส์ หนึ่งในสมุนของ ดร.จูเลียส โน สมาชิกองค์กรร้าย SPECTRE ในภาพยนตร์เรื่องแรกสุดของชุด เจมส์ บอนด์ อย่าง Dr. No (1962) โดย โจนส์ ได้รับมอบหมายให้หลอกล่อและสังหาร บอนด์ ด้วยการปลอมตัวเป็นคนขับรถส่วนตัวจากทางรัฐบาลไปรับเขาที่สนามบินคิงสตัน ประเทศจาไมก้า ทว่า บอนด์ ก็รู้ตัวและเปิดฉากแอคชั่นกับ โจนส์ เมื่อรู้ว่าตนแพ้แน่ โจนส์ จึงขอซองบุหรี่ของเขา และกัดบุหรี่ที่ผสมไซยาไนด์เข้าไปพร้อมกับสาปแช่งบอนด์ก่อนตายนั่นเอง  

 

 

 

นาฬิกาลับจับรัดคอ

นาฬิกาข้อมือบรรจุเส้นลวดหนา สามารถดึงออกมาใช้รัดคอศัตรูได้ อาวุธนี้ปรากฏเป็นครั้งแรกตอนที่มือสังหารนามว่า เรด แกรนท์ กำลังฝึกการต่อสู้กับ เจมส์ บอนด์ ของเล่นในฉากเปิดของ From Russia with Love (1963) หนังลำดับที่ 2 ของแฟรนไชส์ ซึ่งภายหลังเขาก็หมายใช้อาวุธลับนี้จัดการกับ 007 ตัวจริง ทว่าผลที่ได้กลับออกมาตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง และอาวุธนี้ก็ไปปรากฏอีกครั้งใน On Her Majesty's Secret Service (1969) ด้วย

 

 

 

รองเท้าพร้อมมีดในตัว

อาวุธลับอีกชิ้นจาก From Russia with Love (1963) คือ รองเท้าพร้อมใบมีดอาบยาพิษที่ซ่อนอยู่บริเวณนิ้วโป้งเท้า เคลือบด้วยยาพิษที่มีชื่อว่า เทโทรโดท็อกซิน ซึ่งสามารถฆ่าคนตายได้ภายใน 7 วินาที โดยในหนังนั้น รองเท้าคู่นี้ถูกสวมใส่โดย โรซ่า เคล็บบ์ และ มอร์เซนี่ เหล่าสมาชิกขององค์กรร้าย SPECTRE และรองเท้าคู่นี้กลับมาโผล่อีกครั้งใน Die Another Day (2002) หนังลำดับที่ 20 ของแฟรนไชส์

 

 

 

รีโมทคอนโทรลกล่องเก็บบุหรี่

รีโมทคอนโทรลที่มีรูปร่างภายนอกเป็นกล่องเก็บบุหรี่ ถูกใช้โดยวายร้ายประจำภาค Thunderball (1965) นามว่า เอมิลิโอ้ ลาร์โก้ โค้ดเนม Number 2 ขององค์กร SPECTRE เพื่อเปิดประตูลับที่นำไปสู่ห้องประชุมของ SPECTRE ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในสมัยนั้น เทคโนโลยีนี้ยังถือว่าเป็นของใหม่และล้ำมากทีเดียว

 

 

 

เก้าอี้ไฟฟ้าประหารชีวิต

โบลเฟลด์ มหาวายร้ายอันดับหนึ่งของ SPECTRE ใช้เก้าอี้นี้เพื่อลงโทษเหล่าสายลับของ SPECTRE ที่ปฏิบัติภารกิจการก่อการร้ายผิดพลาด เพียงกดปุ่มเท่านั้น ไฟฟ้ากำลังมหาศาลก็จะไหลเข้ามาช็อตสายลับเพื่อประหารชีวิตอย่างทรมาน ความเด็ดคือ เมื่อช็อตสายลับเสร็จ เก้าอี้ก็จะเคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง ทิ้งศพของสายลับที่ตายและเคลื่อนกลับขึ้นมาใหม่พร้อมด้วยที่นั่งสะอาดตาพร้อมรับก้นของสายลับจอมผิดพลาดคนต่อไป เก้าอี้นี้ปรากฏในหนังเรื่อง Thunderball (1965) ซึ่ง โบลเฟลด์ ใช้มันในการประหาร No.9 สมุนที่โกงเงินไปนั่นเอง

 

 

ลิปสติกระเบิด

ระเบิดแก๊สที่มาในรูปของลิปสติก ปรากฏใน You Only Live Twice (1967) หนังลำดับที่ 5 ของแฟรนไชส์ ถูกใช้โดย เฮลก้า แบรนดท์ หนึ่งในสมุนของโบลเฟลด์ แห่ง SPECTRE โดยเธอใช้มันเพื่ออำพรางและเข้าจับตัวเจมส์ บอนด์ พร้อมกับมัดเขาไว้กับที่นั่งบนเครื่องบิน และร่มชูชีพ ไม่กี่วิหลังจากนั้น ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยแก๊ส และแบรนดท์ก็หายตัวไป ทิ้งให้ 007 ต้องสู้เพื่อหนีออกจากเครื่องบินที่ไร้คนขับลำนี้ให้ได้

 

 

 

บ่อปิรันยา

ทางเดินลับที่ โบลเฟลด์ เอาไว้ใช้กำจัดพวกลูกสมุนที่ไม่ได้เรื่องและบรรดาแขกไม่ได้รับเชิญของเขา ซึ่งภายใต้ทางเดินนั้นคือบ่อปลาปิรันยาที่กระหายเนื้อสดๆ ควบคุมโดยแป้นเหยียบหลังโต๊ะทำงานของ โบลเฟลด์ เพียงกดปุ๊บ ทางเดินก็เปิด สมุนที่ไร้ประโยชน์ก็ลงไปว่ายกับปิรันย่าได้ทันที ปรากฏใน You Only Live Twice (1967)

 

 

 

หอกพับได้

อาวุธนี้ปรากฏใน You Only Live Twice (1967) ถูกใช้โดยมือสังหารแห่ง SPECTRE ที่ตั้งใจบุกเข้าไปในโรงเรียนฝึกสอนซามูไรของทานากะ เพื่อสังหารสายลับอังกฤษ เจมส์ บอนด์

 

 

 

ของขวัญจากโบลเฟลด์

ปรากฏใน On Her Majesty's Secret Service (1969) เป็นของขวัญของ โบลเฟลด์ ที่ส่งให้กับสาวๆ Piz Gloria ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พวกมันคือเครื่องแปรสัญญาณที่ช่วยกระจายสัญญาณอาวุธชีวภาพในตัวของสาวๆแก๊งนางฟ้าแห่งความตายนั่นเอง

 

 

 

เครื่องบันทึกเสียงอัลกอริทึ่ม

ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีล้ำอีกหนึ่งชิ้นที่ปรากฏใน Diamons Are Forever (1971) หนังลำดับที่ 7 ของแฟรนไชส์ ถูกใช้โดย โบลเฟลด์ บอสใหญ่แห่ง SPECTRE เพื่อปลอมแปลงเสียงของเขาให้เหมือนกับ วิลลาร์ด ไวท์ เศรษฐีจอมสันโดษที่เขาจับตัวไป แต่ภายหลัง เจมส์ บอนด์ ก็เกิดความสงสัยและสวมรอยใช้เครื่องบันทึกเสียงนี้เพื่อหลอก โบลเฟลด์ ให้บอกที่ที่พา วิลลาร์ด ไวท์ ไปซ่อนนั่นเอง