HIGHLIGHT CONTENT

การกินเนื้อและเลือด บิดความสยองใส่ความเป็นมนุษย์ หนังรสชาติใหม่ใน Bones and All

  • 775
  • 15 พ.ย. 2022

 

 

การกินเนื้อและเลือด บิดความสยองใส่

ความเป็นมนุษย์ หนังรสชาติใหม่ใน Bones and All

 

การกินเนื้อและเลือดเกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาและมีการเปรียบเทียบมายาวนานแล้ว แต่เขาเลือกจะถ่ายทอดในมุมของตัวละครให้ดูเป็นเรื่องปกติของชีวิตพวกเขาเหมือนการนอนหลับ ที่สำคัญคือมันเป็นสิ่งที่กำหนดความกลัว ความอาย และทำให้พวกเขาเข้ากับคนอื่นไม่ได้ พวกเขาต้องเผชิญกับเรื่องของธรรมชาติ ความเสียหายที่เราต่างต้องพบเจอ ตอนที่พวกเขากินอาหาร กัวดานีโนเล่าเน้นย้ำว่ามันเป็น “เรื่องยากและน่าเศร้า” สำหรับพวกเขาที่เลี่ยงไม่ได้ แต่สุดท้ายก็รู้สึกผิดเสมอ  

มันยิ่งเพิ่มความสมจริงขึ้นมา “นี่เป็นเรื่องราวของคนที่ต้องอยู่ในสภาพที่ควบคุมอะไรไม่ได้ และเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่อีกหลายเหตุการณ์อื่น” กัวดานีโนกล่าว “แต่ในช่วงงแรกผมเชื่อในตัวตนของคนเหล่านี้ และผมอยากให้ผู้ชมเชื่อในตัวตนพวกเขาโดยที่ไม่ต้องมีองค์ประกอบของความแปลกประหลาดอะไรมาข้องเกี่ยว” 

นี่คือสิ่งที่แคจกานิชหวังไว้ว่าเรื่องราวจะถ่ายทอดสู่หน้าจอได้อย่างมีชีวิตชีวา ไม่ใช่เรื่องที่ดูมืดหม่นแต่เหมือนโลกทุกวันของเรา “ภาพยนตร์คือภาษาหนึ่งของความเอาใจใส่ ผมจะเล่นกับความฉลาดทางอารมณ์ของผู้ชมเสมอ และระหว่างที่ผมไม่คิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญ ไม่มีภาพสะท้อนมุมมองของคนอื่นที่เห็นตัวละครเหล่านี้ เพราะมันจะลดความน่าสงสารจากผู้ชมลงไป” เขาเล่าถึงเรื่องการกิน “ผมอยากให้ผู้ชมมีโอกาสสัมผัสความน่าขยะแขยงไปพร้อมกับรักแท้ทุกรูปแบบ หวังว่ามันจะช่วยพัฒนาตัวละครเหล่านี้ได้” 

 

 

กัวดานีโนหลงใหลตัวละครหญิงแกร่งเสมอ เขาพยายามสะท้อนความซับซ้อนของมาเรนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และต้องเผชิญชะตากรรมที่เธอไม่ต้องการออกมา เธอไม่เคยยอมรับสัญชาตญาณตัวเอง พยายามใช้ชีวิตหลีกเลี่ยงการทำร้ายผู้อื่น เขาสนใจมุมที่เธอไม่ใช่แค่พยายามอยู่กับสิ่งที่เป็น แต่เธอคิดไกลกว่านั้น พยายามข้ามสิ่งที่เธออาจจะเป็น สิ่งที่กำหนดเส้นทางเธอ สิ่งที่ตัดทางเลือกเธอและทำให้เธอไม่ปลอดภัย

“ผมมองมาเรนเหมือนคนหลงทางและนักเสาะแสวงหาในผลงานอเมริกันอันยิ่งใหญ่” ผู้กำกับฯ อธิบาย “เธอเหมือนตัวแทนของการเดินทางสำรวจ แต่ก็มีความเป็นสาวยุค 80 ที่ดูโดดเดี่ยว ไม่เข้าสังคมกับใคร”

การเดินทางไร้จุดหมายในเรื่องก็เป็นองค์ประกอบสำคัญของแคจกานิช “เส้นทางอาจเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง เร่งการเติบโต และเป็นเหตุผลของเรื่องราว สิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวคนๆ หนึ่งอาจเห็นได้ชัดขึ้นเมื่ออยู่ในการเดินทาง เมื่อจุดหมายของเราต้องเปลี่ยนไปในช่วงนาที”

 

 

ขณะเดียวกันโปรเจ็กต์นี้ก็เหมือนของขวัญสำหรับกัวดานีโน เพราะเป็นโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับชาลาเมต์ ผู้ที่เขาไม่สงสัยในความสามารถการถ่ายทอดความใสซื่อและความปั่นป่วนในตัวลี ซึ่งจะทำให้เรื่องนี้ดูเป็นยุคของพวกเรา “เรามีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันจากเรื่อง Call Me by Your Name และหลังจากนั้นผมเฝ้าดูการเติบโตของเขาผ่านจอหนัง เขาดูน่าอัศจรรย์มาก” เขากล่าว “ผมพูดทันทีเลยว่าผมจะสร้างหนังเรื่องนี้ให้นานที่สุด ตราบเท่าที่ทิโมธีมาแสดง เขารักบทเรืองนี้ และเราเริ่มร่วมงานกันโดยที่เดวิดได้มอบโอกาสให้หลายองค์ประกอบดูสดใสมากขึ้น”

และเขามีความสุขกับไอเดียการถ่ายทำภาพยนตร์ให้ดูแปลกตา เป็นสหรัฐฯ ในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และสร้างอเมริกายุค 80 ขึ้นมาใหม่ “ยุค 80 เป็นช่วงเวลาแห่งความแตกต่างอย่างชัดเจน” เขาสังเกต “ในหลายส่วนของเศรษฐกิจอเมริกันกำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังมีหลายส่วนที่ลำบากยากจน ผมรู้สึกว่าเป็นยุคคู่ขนานที่มีความแตกต่างภายในของตัวละครเหล่านี้ พวกเขามีหน้าที่รับมือกับมันแต่ก็ต้องเผชิญกับความเป็นไปไม่ได้ด้วย”

สิ่งหนึ่งที่กัวดานีโนไม่ยอมทำ คือการปล่อยให้มาเรนหรือลีเป็นที่เยาะเย้ยหรือดูถูก เขาประคองตัวละครในทุกเฟรมด้วยความอ่อนโยน “ในเรื่องนี้จะไม่มีการเกลียดชังมนุษย์เกิดขึ้น” กัวดานีโนยืนยัน “ไม่มีให้เห็นเลย และเป็นเพราะเทย์เลอร์ ทิโมธี รวมถึงนักแสดงทุกคนตั้งใจแสดงให้มีความเป็นมนุษย์ที่สุด สำหรับผมการเยาะเย้ยและเสียดสีกันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำให้ฉาบฉวย แต่ในหนังเรื่องนี้ผมอยากให้มีความน่าสนใจต่างออกไป อยากให้สะท้อนถึงอารมณ์ของมาเรนและลีให้ได้มากที่สุด”  

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

โบนส์ แอนด์ ออล

  • 24 November 2022
  • Adventure / ชีวิต / สยองขวัญ / โรแมนติก /
  • 131 นาที
15+

ข่าวที่เกี่ยวข้อง