รู้หรือไม่? วัตถุโบราณชิ้นสำคัญใน Indiana Jones Dial of Destiny
อ้างอิงมาจากของจริง
ภาพยนตร์ในเฟรนไชส์ อินเดียน่า โจนส์ มีบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น จนมันทั้งถูกทำซํ้าและเลียนแบบตลอดมานับครั้งไม่ถ้วน เริ่มต้นแต่ Raiders of the Lost Ark (1981) หรือ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ที่เต็มไปด้วยฉากแอคชั่น, การไล่ล่า, การหลบหนี รวมไปถึงสเน่ห์และการผจญภัยสุดท้าทายที่ทำให้ อินเดียน่า โจนส์ กลายมาเป็นอาหารจานที่มีองค์ประกอบครบถ้วนมากที่สุด จนมันสามารถคงอยู่มาได้อย่างยาวนานและกลายมาเป็นเฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่หลายคนหลงรัก
บางทีหนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นมากที่สุดในส่วนผสมนี้ ที่อาจจะชี้ให้เห็นได้เลยว่าเรื่องราวการผจญภัยในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็คือ วัตถุโบราณที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในการผจญภัยแต่ละครั้ง เช่นเดียวกันกับการเข้ามาสานต่อเรื่องราวของ เจมส์ แมนโกลด์ ใน Indiana Jones and the Dial of Destiny หรือ อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา แต่คำถามที่ตามมาก็คือ วัตถุโบราณที่มีชื่อว่า กงล้อแห่งโชคชะตา คืออะไรกันแน่?
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้วัตถุโบราณมีความสำคัญก็เพราะว่า ในภาพยนตร์ อินเดียน่า โจนส์ วัตถุเหล่านี้คือสิ่งที่ทั้ง อินดี้ และวายร้ายออกตามหา โดยในภาพยนตร์ภาคแรก หีบแห่งพันธสัญญา เป็นวัตถุโบราณที่ตัวร้ายต้องการที่จะใช้มันเพื่อตามหาพลังที่ต้องการ ส่วนใน The Last Crusade (1989) หรือ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด ทั้งตัวร้าย วอลเตอร์ โดโนแวน และ อินดี้ ต่างต้องการจอกศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป้าหมายของตนเอง คนหนึ่งเพื่อความเป็นอมตะและอีกคนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือพ่อของเขา ส่วนใน Kingdom of the Crystal Skull (2008) หรือ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 4: อาณาจักรกะโหลกแก้ว ที่ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่น่าผิดหวังนั้น กะโหลกแก้วเป็นขุมสมบัติที่บรรจุองค์ความรู้ของเอเลี่ยนไว้ภายใน ซึ่งฟังดูแล้วเป็นอะไรที่น่าแปลกอยู่เหมือนกันและอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ล้มเหลวในด้านคำวิจารณ์
ความสำเร็จและความล้มเหลวของตำนานวัตถุโบราณก่อนหน้านี้ จึงทำให้วัตถุโบราณในภาคต่อที่จะเป็นผจญภัยครั้งสุดท้ายมีความสำคัญอย่างที่สุด โดย กงล้อแห่งโชคชะตา หรืออีกชื่อหนึ่งคือ กลไกแอนติคิเธียรา คาดว่าจะเป็นวัตถุโบราณที่มีความสามารถที่สามารถย้อนเวลาได้ด้วยกลไกลึกลับบางอย่าง ส่วนเหตุผลที่ทั้งสองฝ่ายออกตามล่าวัตถุโบราณชิ้นนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะว่า อินดี้ อยากที่จะใช้มันนำเอาอดีตอันรุ่งโรจน์ของเขากลับคืนมา ส่วนอดีตนักวิทยาศาสตร์นาซีก็พยายามที่จะนำปลุกอาณาจักรไรช์ที่สามกลับมา เพื่อทำลายสมดุลอำนาจของโลกภายใต้บริบทของการลงจอดของยานอวกาศบนดวงจันทร์ในปี 1969
ถึงแม้ว่า แอนติคิเธียรา ในโลกแห่งความเป็นจริงจะไม่สามารถย้อนเวลาได้ก็ตาม แต่มันก็เป็นวัตถุโบราณถูกค้นพบจริง ๆ ที่ไม่เหมือนกับจอกศักดิ์สิทธิ์และหีบแห่งพันธสัญญาที่ถูกกล่าวถึงเป็นเรื่องเล่าเพียงเท่านั้น โดยในขณะนี้มันถูกนำเอาไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานโบราณคดีแห่งชาติเมืองเอเธนส์
โดยวัตถุโบราณชิ้นนี้ถูกคนพบในปี 1901 ในซากเรืออัปปางริมชายฝั่งของเกาะแอนติคิเธียราในประเทศกรีซ แต่ก็อีกหลายปีจนกว่าจะมีการค้นพบเกี่ยวกับคุณลักษณะของมันผ่านการสแกน ว่าหลายส่วนของมันมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันเป็นระบบคอมพิวเตอร์แบบอนาล็อคที่เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์เคยรู้จัก
แต่วัตถุประสงค์ที่คอมพิวเตอร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคำนวณยังไม่แน่นอนนัก แต่ก็ยังน่าทึ่งอยู่ดีที่ระบบของวัตถุที่ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อสองศตวรรษก่อนคริสตกาล มีกลไลแยกส่วนที่สามารถคำนวนตำแหน่งที่สัมพันธ์กันของวัตถุท้องฟ้า 7 อย่าง ได้แก่ ดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, ดาวพุธ, ดาวศุกร์, ดวงอังคาร และดาวพฤหัสบดี พร้อมกันได้ในคราวเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถคาดเดาตำแหน่งของพวกมันในอนาคตได้ ตลอดไปจนถึงการเกิดข้างขึ้นข้างแรมและการเกิดสุริยุปราคา และการครบรอบของการจัดกีฬาโอลิมปิคทุก ๆ สี่ปีอีกด้วย ทำให้ถึงแม้มันจะไม่สามารถย้อนเวลาได้ แต่ก็ถือว่าวัตถุโบราณชิ้นนี้เป็นความมหัศจรรย์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาได้ก่อนกาลจริง ๆ
ในปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลไกของแอนติคิเธียราอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างที่รอการค้นพบเพิ่มเติมนี้ การผจญภัยของ อินเดียน่า โจนส์ ก็คงจะทดแทนกันไปได้ ด้วยการผสมผสานเรื่องราววัตถุโบราณที่มีอยู่จริงกับตำนานที่เกี่ยวข้องกับมัน ให้กลายมาเป็นสิ่งที่ทั้งวายร้ายและตัวเอกต้องออกตามล่ากัน
Indiana Jones and the Dial of Destiny หรือ อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 28 มิถุนายน ที่จะถึงนี้
สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Collider