ตอบข้อสงสัย ทำไม สตีเวน สปีลเบิร์ก ถึงไม่กลับมากำกับ Indiana Jones and the Dial of Destiny

ทำไม สตีเวน สปีลเบิร์ก ถึงไม่กลับมากำกับ

Indiana Jones and the Dial of Destiny

 

 

ในตอนนี้ Indiana Jones and the Dial of Destiny หรือ อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และการเดินทางของ แฮร์ริสัน ฟอร์ด ในฐานะของฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ก็จบลง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ตัวละครที่เราหลงรักจะปรากฏตัวเป็นจอภาพยนตร์เป็นครั้งสุดท้าย รวมไปถึงการที่มันจะไม่ได้เฉลิมฉลองการสิ้นสุดลงด้วยฝีมือของผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก

ถึงแม้ว่าจะรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ทุกเรื่องก่อนหน้าในเฟรนไชส์นี้ สปีลเบิร์ก กลับเลือกที่จะไม่กลับมาทำหน้าที่เดิมใน กงล้อแห่งโชคชะตา ที่จะปิดฉากเรื่องราวที่ยาวนานกว่าสี่สิบปีนี้ลงไป โดยจะได้ตัวผู้กำกับภาพยนตร์ Logan (2017) หรือ โลแกน เดอะ วูล์ฟเวอรีน และ Ford v Ferrari (2019) หรือ ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์ อย่าง เจมส์ แมนโกลด์ มาทำหน้าที่แทน สปีลเบิร์ก ที่ผันตัวไปเป็นผู้อำนวยการสร้างร่วมกับต้นฉบับผู้สร้างอีกคนอย่าง จอร์จ ลูคัส

 

 

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับไฟเขียวอนุญาตการสร้างจากทางดิสนีย์ในเดือนมีนาคม ปี 2016 พร้อมกับการมารับบทบาทเดิมอีกครั้งของ ฟอร์ด และการกลับมา สปีลเบิร์ก ในฐานะผู้กำกับ รวมไปถึงนักประพันธ์คู่เฟรนไชส์อย่าง จอห์น วิลเลี่ยมส์ แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้ว ทีมงานเบื้องหลังในฝันนี้ก็ไม่ได้เดินหน้าต่อ เพราะว่าปัญหาเรื่องบทภาพยนตร์ที่ยังไม่ลงตัว จนทำให้ สปีลเบิร์ก เริ่มไปทำงานในภาพยตร์เรื่องอื่นอย่าง The Post (2017) หรือ เอกสารลับเพนตากอน และ Ready Player One (2018) หรือ เรดดี้ เพลเยอร์ วัน สงครามเกมคนอัจฉริยะ แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศถอนตัวจากการทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แต่อย่างใด

จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 สิ่งที่หลายคนไม่อยากจะเกิดขึ้นก็เป็นจริง เมื่อ สปีลเบิร์ก ตัดสินใจส่งมอบหน้าที่ผู้กำกับให้กับ แมนโกลด์ แทน พร้อมกับการเลื่อนฉายที่ตามมา เพื่อให้ แมนโกลด์ จัดการกับบทภาพยนตร์เสียใหม่ และถึงแม้มันจะเป็นงานที่ยากในการที่จะเข้ามาแทนที่หนึ่งในสุดยอดผู้กำกับของวงการ แต่ สปีลเบิร์ก ก็ยอมรับและชื่นชมในวิสัยทัศน์ของ แมนโกลด์ เป็นอย่างสูง

 

 

แต่คำถามที่สำคัญก็คือ ทำไม สปีลเบิร์ก ไม่รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง? โดยก่อนหน้าที่แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนได้อ้างว่าเหตุผลดังกล่าวก็คือ เพราะว่าเขาต้องการที่จะส่งต่อเฟรนไชส์นี้ให้กับคนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ และอีกหลายเหตุผลที่ทีมงานเบื้องหลังออกมาพูดถึง ทั้งความยกลำบากในกระบวนการสร้างและความลังเลของตัว สปีลเบิร์ก เอง ว่าจะรับหน้าที่กำกับเรื่องภาพยนตร์นี้หรือไม่

ซึ่งเหตุผลดังกล่าวก็เป็นอะไรที่พอจะยอมรับได้ เห็นได้จากในอดีตที่ สปีลเบิร์ก ปล่อยให้ผู้กำกับคนอื่นมารับช่วงต่อในภาพยนตร์ที่ตนเองเป็นต้นตำรับของการสร้างเป็นปกติอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ จูราสสิค พาร์ก ที่เขารับหน้าที่กำกับแค่สองภาคแรก ก่อนที่จะผันตัวไปเป็นผู้อำนวยการสร้าง รวมไปถึง Jaws (1975) หรือ จอว์ส ที่เขาสร้างภาพยนตร์ภาคแรกขึ้นมาและไม่หันหลังกลับไปสนใจมันอีกเลย ซึ่งก็ไม่แตกต่างออกไปแต่อย่างใดในกรณีของ อินเดียน่า โจนส์

Indiana Jones and the Dial of Destiny หรือ อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Collider