ใจความสำคัญของ Past Lives คือเรื่องราวรักสามเส้าของคนสามคนที่พยายามอย่างเต็มที่ในการเป็นผู้ใหญ่

ใจความสำคัญของ Past Lives คือเรื่องราวรักสามเส้า

ของคนสามที่พยายามอย่างเต็มที่ในการเป็นผู้ใหญ่

 

 

ตลอดอาชีพการงานที่ยาวนานหลายสิบปีของ มาริน่า อบราโมวิช (Marina Abramovic) ศิลปินการแสดงระดับตำนานที่โด่งดังที่สุดหรืออย่างน้อยก็มีคนดูมากที่สุด ช่วงเวลานั้นน่าจะมาจากการเผชิญหน้ากันเพียงครั้งเดียวในละครเวทีเรื่อง “The Artist Is Present” ของเธอในช่วงย้อนระลึกปี 2010. คลิปไวรัลในขณะนั้น อบราโมวิช ซึ่งกำลังทำการแสดงโดยการนั่งเงียบ ๆ และร่วมจ้องมองกับผู้เข้าร่วมต่าง ๆ ทีละคน ในช่วงที่ไม่คาดคิด เธอลืมตาขึ้นและเห็นกับอดีตสามีของเธอ ศิลปิน Ulay ซึ่งเธอไม่ได้เห็นหรือพูดกันมานานหลายทศวรรษ เขาส่ายหัวในขณะที่ดวงตาของเธอเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา พวกเขาไม่พูดอะไร พวกเขาต่างเข้าถึงซึ่งกันและกัน

“เราดูวิดีโอนั้นหลายครั้งมาก” ลี กล่าว ช่วงเวลา ความหมายและประวัติศาสตร์ที่มีอยู่ด้วยกัน นั้นรวบรวมอยู่ในการจ้องมองเหล่านั้น ซึ่งมันมีความคล้ายคลึงกับช่วงเวลาใน Past Lives เมื่อในที่สุดนอราและแฮซองได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

“มันเหมือนกับการได้เห็นภาพสะท้อนของตัวเองในช่วงเวลาที่ต่างออกไป” ลี กล่าว “ฉันย้อนกลับไปที่ความคิดนี้ ใช่แล้ว เกี่ยวกับความรัก แต่ยังมีตัวตนในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด: คนๆ นี้มีหลายอย่างคล้ายตัวตนของฉันเป็นอย่างมาก และตัวตนที่ฉันเคยเป็นอยู่นี้ยังมีอยู่หรือไม่” การได้เห็นแฮซองเป็นทั้งภาพในอดีตของนอราและภาพที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและเส้นทางที่ฉันนั้นไม่ได้ไป: 
“มันเป็นภาพโฮโลแกรมของการดำรงอยู่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันจะเป็นอย่างไร ถ้าฉันไม่ได้เลือกที่จะอยู่กับใครสักคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าฉันย้ายไปอยู่ที่นั่น ถ้าฉันได้เดินผ่านประตูบานนั้น”

 

 

ช่วงเวลานั้นและทุกสิ่งที่นำไปสู่เหตุการณ์นั้น เป็นสิ่งที่ซงรู้จักเป็นอย่างดี ความสัมพันธ์ที่ นอร่า พัฒนาขึ้น ครั้งแรกในวัยเด็ก จากนั้นผ่านข้อความออนไลน์และ Skype ในวัย 20 ปีของเธอ และกลับมาพบกันอีกครั้งในชีวิตหลังจากนั้น โดยโครงสร้างแล้ว มันก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของ ซง เอง “นั่นเป็นหนึ่งในฉากที่ง่ายที่สุดสำหรับฉันในการกำกับ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงมาก” ซงกล่าว “เพราะรู้สึกเหมือนคนๆ นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ มันรู้สึกเหมือนเห็นผีจริงๆ”

สำหรับเธอแล้ว ประสบการณ์ทั่วไปสำหรับใครก็ตามที่เคยย้ายถิ่นฐาน เช่น เมืองอื่นหรืออีกช่วงหนึ่งของชีวิตเป็นเรื่องที่น่าเวียนหัวและละห้อยละเหี่ย ความรู้สึกของผู้ย้ายถิ่นฐานและสิ่งที่เธอทิ้งไว้เบื้องหลัง ประเทศ วัฒนธรรม และ ภาษาในช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโต “คุณไม่เพียงแค่มองเห็นบุคคลนี้อย่างที่เขาเป็น แต่คุณเห็นพวกเขาเหมือนที่คุณนั้นจำเขาได้ในวัยเด็ก” ซง กล่าว “และคุณจะเห็นพวกเขาล้อมรอบไปด้วยความรู้สึก สถานที่ กลิ่น และแสงสว่างของวัยเด็ก”

ความรู้สึกนั้นมักถูกกระตุ้นอย่างทรงพลังผ่านความไม่ชัดเจนของซง แต่มันส่งผลต่อการกำกับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช็อตที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนภาพก่อนหน้าจากชีวิตในอดีตของนอร่า

ซองจำได้ว่ากำลังถ่ายช็อตของแฮซองในวัยเยาว์ที่มองออกไปนอกหน้าต่างรถโดยมีนอร่านอนอยู่เคียงไหล่ของเขา ซึ่งเป็นภาพที่เรียกย้อนกลับไปในช่วงเวลาสุดท้าย “ฉันดึงภาพเหล่านั้นออกมา และแสดงให้ทีมงานชาวเกาหลีดูว่า มันต้องเป็นแบบนี้ นั่นเป็นความตั้งใจของฉัน” ซงเล่า

 

 

การแสดงกริยาและอง์ประกอบท่าทางของเธอมักจะสามารถแบกน้ำหนักของเรื่องราวทั้งหมดไว้ได้ด้วยการระเบิดที่เงียบงันและระเบิดออกมาในครั้งเดียว เธออ้างอิงช็อตสะท้อนอีกช็อตหนึ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นผ่านการตัดต่อในตอนท้าย: นอร่าและแฮซองยืนเผชิญหน้ากันเหมือนที่เคยทำเมื่อหลายปีก่อนตรงทางแยกบนถนนในทางเดินในกรุงโซล “มีบางช็อตที่คุณจะรู้สึกเหมือน โอ้ ฉันรู้ว่าพวกเขาสามารถพูดแทนทุกสิ่งได้” เธอกล่าว

Past Lives สมมติและเพิ่มความเข้มข้นให้กับเนื้อเรื่องของการกลับมาพบกันอีกครั้งของซงกับคนรักในอดีต และในขณะที่เธอตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีอะไรที่ "โรแมนติก"อย่างชัดเจนเกี่ยวกับการมาเยือนครั้งนี้ มีความจริงแฝงอยู่—ความจริงที่เปิดเผยมากกว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้—ที่เธอไม่เต็มใจที่ต้องเผชิญในชีวิตจริง “ฉันถูกปฏิเสธ เขาถูกปฏิเสธ” ซงกล่าว “สามีของฉันพูดตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อน 'คุณกำลังพูดถึงอะไร? เขามาหาคุณเพราะเขารักคุณ”

อย่างไรก็ตาม ซงก็ยังยืนกรานที่จะหันเหจากความสัมพันธ์แบบรักสามเส้า “การตีความแบบเรียบๆ ของหนังก็คือ เธอจะไปกับผู้ชายคนไหน?” เธอกล่าวต่อ “ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนจริงๆ เวอร์ชั่นที่น่าเบื่อนั้นเกี่ยวกับสงครามระหว่างตัวละครเหล่านี้ แต่มันซับซ้อนกว่าว่าทำไมชายสองคนนี้ถึงรักนอร่า ทั้งคู่ต้องนับถือนอร่าถึงจะรักเธอได้เป็นอย่างดี”

หรืออีกนัยหนึ่งคือนอร่าเป็นตัวของเธอเอง มากกว่าที่จะเป็นความคิดที่ว่าผู้ชายคนไหนที่เธอควรจะเลือก “เธอมั่นใจมากในสิ่งที่เธอต้องการ” ลี กล่าว “เราดูเรื่องราวความรัก ละครโรแมนติกที่ผู้หญิงซึ่งหลงอยู่ในความปรารถนาของตน และการแก้ปัญหาชีวิต และปล่อยเรื่องราวเหล่านั้นกับผู้ชายต่างๆ นี่มันไม่ใช่อย่างนั้น”

 

 

แต่ถึงกระนั้น ในขณะที่โลกของนอร่าปะทะกันระหว่างชายสองคนนี้ ในที่สุดช่วงองก์ที่สามของหนังก็พาเรากลับไปสู่ฉากบาร์ที่เปิดเรื่องพร้อมด้วยบริบทใหม่ พร้อมกับความตึงเครียด: นอร่านั่งอยู่ระหว่างแฮซอง ผีที่ฟื้นคืนชีพกลับมาจากอดีตของเธอ อดีตที่ลำบากที่จะปล่อยเธอไป และอาร์เธอร์ สามีของเธอที่นั่งอยู่อย่างกระอั่กกระอ่วน ที่ฟังพวกเขาเชื่อมโยงกันอีกครั้งในภาษาที่เขาพูดไม่ได้

ในการร่างตัวละครของแฮซอง ซงตั้งใจที่จะทำให้เขาไม่มีความโดดเด่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “แต่มีวิธีหนึ่งที่เขาโดดเด่นมาก นั่นคือความสามารถของเขาที่จะรักโดยไม่ต้องการอะไรหรืออยากได้อะไรจากเธอ” ซงกล่าว “มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่เขาสามารถให้เธอได้” เธอตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่าเป็นเรื่องจริงของอาร์เธอร์ “เขากลัว แต่เขากำลังจะนั่ง และเขาจะหุบปาก เพราะส่วนหนึ่งที่เขาไม่พูดอะไรเลยคือ [สิ่งที่ต้องทำ] เพื่อให้ได้รักผู้อพยพชาวเกาหลีคนนี้ เขาต้องรักและยอมรับความรู้สึกนี้จริง ๆ ว่ามีส่วนหนึ่งของเธอที่เขาไม่ไม่มีวันรู้”

“มันไม่มีใครเป็นผู้ร้ายเลย” มากาโร แกนนำของโรงละครนิวยอร์กอีกคนที่บทภาพยนตร์ของท็อดด์ เฮย์เนส, เคลลี ไรชาร์ด และคนอื่นๆ ทำให้เขาได้รับความสนใจจากผู้สร้างภาพยนตร์กล่าวว่า “ไม่มีตัวร้ายเลย” “แต่มีคนที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและคนที่อิจฉาริษยาและโกรธ แต่พวกเขาต้องต่อสู้กับอารมณ์เหล่านั้น และสิ่งที่เซลินทำคือแสดงภาพผู้ชายดีๆ สองคน พวกเขาใจดีและใจกว้างจริงๆ ที่สามารถทิ้งความอิจฉาริษยาและความไม่มั่นคงแบบเด็กๆ ไว้เบื้องหลังได้เพราะพวกเขาห่วงใยผู้หญิงคนนี้”

 

 

“มันเหมือนกับว่าคุณกำลังดูชายสองคนนี้เป็นฮีโร่ในแบบที่ธรรมดาที่สุด” ซงกล่าว “พวกเขากำลังตัดสินใจที่นี่ว่าจะรักเธอในสิ่งที่เธอเป็น เพราะเธอจะไม่เป็นคนที่ทอดทิ้งใครคนใดคนหนึ่ง แต่เธอก็จะไม่หยุดการสนทนานี้เช่นกันเพียงเพราะมันทำให้สามีของเธอรู้สึกไม่สบายใจ”

สิ่งที่มักจะกำหนดความดราม่าในภาพยนตร์และการเล่าเรื่องคือการที่ผู้ใหญ่ประพฤติตัวเหมือนเด็ก ในทางตรงกันข้าม Past Lives เป็นภาพยนตร์ “เกี่ยวกับคนสามคนที่พยายามอย่างเต็มที่ในการเป็นผู้ใหญ่” ซง กล่าว “ไม่มีใครเถียง ไม่มีใครตะโกน ด้วยพลังแห่งความรักและความเคารพที่พวกเขามีให้กัน พวกเขาก็สามารถผ่านพ้นการกลับมาพบกันที่เข้มข้นนี้ได้ โดยพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ทำร้ายกันและกัน”

Past Lives หรือ ครั้งหนึ่ง...ซึ่งคิดถึงตลอดไป เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้

 

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่