HIGHLIGHT CONTENT

รีวิว Spider-Man: No Way Home ออกจากเงารุ่นพี่ เติบโตเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในแบบตัวเอง

  • 1,847
  • 24 ธ.ค. 2021

 

 

รีวิว Spider-Man: No Way Home

ออกจากเงารุ่นพี่ เติบโตเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในแบบตัวเอง

 

                เราคุ้นเคยกับสไปเดอร์แมนกันดี ผ่านการแสดงของโทบี้ แม็คไกวร์ และแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เราได้เห็นเรื่องราวต้นกำเนิดของตัวละครนี้ผ่านทั้งสองคนมาแล้ว จนกระทั่งมาถึงคราวของทอม ฮอลแลนด์ Sony Pictures และ Marvel Studios ก็ได้นำเสนอปีเตอร์ พาร์คเกอร์ หรือ Spider-Man ในมุมมองที่แตกต่างออกไป เราได้เห็นความน่ารัก น่าเอ็นดู ความเป็นน้องชายของปีเตอร์ ซึ่งเขามีเสน่ห์ล้นเหลือในภาพยนตร์ที่ไปร่วมแจมกับคนอื่น ๆ แต่ในภาพยนตร์ของตัวเองกลับต้องตกอยู่ใต้เงาของรุ่นพี่ฮีโร่อย่าง Iron Man

 

 

                แต่ใน Spider-Man: No Way Home นี้จะต่างออกไป เราจะได้เห็นการเส้นทางการเป็นฮีโร่ของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ที่ชัดเจนขึ้น หนังจะพาเราไปค้นหาหนทางที่จะนิยามความเป็นฮีโร่ของตัวเขาเอง ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่พลิกผัน เหมือนกับชีวิตวัยรุ่นที่มีขึ้นมีลงอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลาหนึ่งอาจจะกำลังหัวเราะร่วนอย่างสนุกสนาน ผ่านไปครู่เดียวเราก็อาจจะต้องมานั่งเครียดและเสียน้ำตา ก่อนจะกลับไปตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง การได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเหมือนกับการได้เล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกเลยทีเดียว

 

                ถึงจะบอกว่าเป็นเครื่องเล่นในสวนสนุก แต่หนังก็ไม่ได้เสิร์ฟแค่ความบันเทิงอย่างเดียว นอกจากแฟนเซอร์วิสที่จัดหนักจัดเต็ม เบอร์เดียวกับ Avengers: Endgame แล้ว หนังยังให้น้ำหนักกับฉากดราม่าที่ดึงเอาพลังทางการแสดงของทอม ฮอลแลนด์ออกมาอย่างถึงขีดสุด เราจะยังเอ็นดูเขาเหมือนเดิม แต่ที่มากขึ้นคือเมื่อเราดูจบ เราจะภาคภูมิใจในตัวเขา เหมือนกับการได้เห็นน้องชายตัวน้อยได้เติบโตขึ้นมาแล้ว

 

 

                เรื่องราวในภาคนี้เป็นผลพวงมาจาก Spider-Man: No Way Home จากการใส่ร้ายและเปิดเผยตัวตนของสไปเดอร์แมน ทำให้ชีวิตของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ และคนรอบข้างของเขาต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบเริ่มทำลายชีวิตของทุกคนทีละเล็กทีละน้อย จนปีเตอร์ต้องไปขอความช่วยเหลือจาก Doctor Strange เพื่อให้เขาร่ายมนตร์ให้คนทั้งโลกลืมว่าเขาคือสไปเดอร์แมน แต่เวทมนตร์เกิดความผิดพลาด จากการทำให้ทุกคนลืม กลายเป็นการดึงเอาคนที่รู้ว่าปีเตอร์ คือสไปเดอร์แมนจากพหุจักรวาลอื่น ๆ มายังจักรวาลนี้ กลายเป็นบททดสอบของปีเตอร์ว่า...เขาจะจัดการรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร ด้วยพลังอันแสนยิ่งใหญ่ที่เขามี

 

                 นอกเหนือไปจากทอม ฮอลแลนด์ที่โปรยเสน่ห์อย่างล้นเหลือแล้ว ตัวนักแสดงสมทบเอง โดยเฉพาะเซนเดย์อา ที่ต้องยอมรับเลยว่าในภาคนี้ เสน่ห์ของเธอก็ไม่แพ้ทอมเลยแม้แต่นิดเดียว ตัวเจคอบ บาตาลอนเองก็ยังสร้างสีสันให้เรื่องราวได้เหมือนเคย และยังแอบมีเซอร์ไพร์สเล็ก ๆ แต่ส่งผลกระทบต่อทั้งเรื่องให้ตัวละครนี้อีกด้วย แต่ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้เห็น Doctor Strange มาร่วมศึกร่วมสู้กันเต็มตัว อาจจะต้องผิดหวัง เพราะในเรื่องนี้หมอแปลกมีฐานะขับเคลื่อนปมสำคัญของเรื่องราวให้ไปข้างหน้า พร้อมทำให้เราเข้าใจและเห็นภาพว่า เรื่องวุ่นครั้งนี้มันคือภัยพิบัติระดับมัลติเวิร์สของจริง

 

                อีกอย่างหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ บรรดาวายร้ายทั้ง 5 คนที่ปรากฏมารุมยำปีเตอร์ พาร์คเกอร์ในหนังเรื่องนี้ ทุกตัวละครจะมีบทบาทที่โดดเด่น การเกลี่ยบทให้พวกเขาทั้ง 5 คนถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว มีการคงไว้ซึ่งความเป็นตัวพวกเขาในภาพยนตร์ของตัวเอง แต่สองตัวละครที่โดดเด่นถูกนำเสนอผ่านการแสดงของสองนักแสดงชั้นเยี่ยม นั่นคือ อัลเฟรด โมลินา ในบทด็อกเตอร์อ็อกโตปุส และที่สุดของเรื่องเลยก็คือ วิลเลม ดาโฟ กับบทกรีนก็อบลิน ที่กินขาด คงความน่าสะพรึงกลัวเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

 

                สุดท้ายนี้ ถ้าใครอยากจะดู Spider-Man: No Way Home ก็เตรียมใจได้เลยว่าคุณจะได้หัวเราะลั่น, ร้องไห้น้ำตาไหลพราก และยิ้มอย่างภูมิใจไปกับหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน นี่คือหนังที่แฟนสไปเดอร์แมนที่ติดตามตัวละครนี้บนจอภาพยนตร์มาตลอดไม่ควรพลาด และเมื่อดูจบแล้วมันจะทำให้คุณอิ่มเอมใจอย่างที่สุด อย่ารอให้ใครมาสปอยล์ ไปดูกันเลยวันนี้ในโรงภาพยนตร์

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง