รีวิว 4Kings II พัฒนาการขึ้นทุกด้าน ขยี้แหลกปมผลกระทบจากการตีกันของเหล่าเด็กช่าง

 

 

รีวิว 4Kings II พัฒนาการขึ้นทุกด้าน

ขยี้แหลกปมผลกระทบจากการตีกันของเหล่าเด็กช่าง

 

หลังจากสร้างกระแสจนเกิดการถกเถียงขึ้นมาในสังคม สำหรับภาพยนตร์เรื่อง 4Kings ความสำเร็จครั้งนั้นถูกนำมาสานต่อใน 4Kings II ภาพยนตร์ที่พูดได้เต็มปากว่าพัฒนาขึ้นจากภาคแรกในทุกด้าน แถมยังนำเสนอใจความสำคัญของเรื่องราวได้คมและชัดมากขึ้นกว่าเดิม

 

ในภาคนี้ย้ายไปเล่าเรื่องราวความบาดหมางระหว่าง กนก และบูรณพนธ์ แถมด้วยการมาถึงของเด็กบ้านที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องราว หนังไม่รีรอที่จะพาเรากระโจนเข้าสู่ดราม่าอันแสนเข้มข้นของเรื่องราว ผสมไปพร้อมกับฉากการตีกันของเหล่าเด็กช่างที่ดูไปเรื่อย ๆ มันก็เกิดคำถามว่า 'จะตีกันทำไมนักหนา' ซึ่งเราคิดว่านั่นเป็นสารที่ภาพยนตร์ต้องการจะสื่อ

 

 

การมาของเด็กบ้าน จึงเป็นเหมือนตัวเปลี่ยนเกม (Game Changer) ของเรื่องราวทั้งหมด การแสดงของ บิ๊ก ดี เจอร์ราด ทำให้เราเข้าถึงตัวละครยาท เด็กบ้าน ได้อย่างครบถ้วน ในขณะที่บุคลิกของตัวละครพลิกกลับสุดขั้วทั้งสองด้าน ความรู้สึกของเราที่มีต่อตัวละครนี้เองก็เช่นกัน เมื่อดูจบแล้ว ตัวละครนี้จึงทำให้รู้สึกได้ทั้งกลัว โกรธ เห็นใจ เอ็นดู สงสาร แล้วก็เวทนา เป็นความซับซ้อนแบบโจ่งครึ้มที่น่าชื่นชม

 

ฉากที่น่าชื่นชมที่สุดของเรื่องก็คือ ฉากการปะทะอารมณ์ระหว่าง บ่าง กนก และบุ้ง พี่สาวของเขา ที่รับบทโดย แหลม สมพล และทราย เจริญปุระ ในขณะที่ทราย สาดอารมณ์และบทพูดที่สมจริงเราเข้าถึงได้ ขณะเดียวกันแหลมเองก็รับอารมณ์เหล่านั้นได้อย่างไม่โดนกลบจนหายไป เป็นฉากที่ยอดเยี่ยมของเรื่องเลยทีเดียว

 

 

อย่างที่บอกว่านี่คือภาพยนตร์ที่มีพัฒนาการขึ้นจากภาคแรกมาก จากการตัดต่อที่ชวนให้ขัดใจก็ถูกนำมาใช้เล่าเรื่องราวได้ลื่นไหลมากขึ้น บทภาพยนตร์ที่ไม่ชวนให้รู้สึกขมวดคิ้วหรือประดักประเดิด การขยี้อารมณ์ผู้ชมในแต่ละฉากเองก็ทำได้ดีเช่นกัน

 

อุปสรรคที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก้าวข้ามไปค่อนข้างยากก็คือ อคติที่คนทั่วไปมีต่อเหล่าเด็กช่าง ด้วยตัวหนังที่ค่อนข้างสื่อไปชัดเจนว่าเป็นหนังที่ทำมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการตีกันที่ไร้เหตุผล ราวกับจะสื่อสารกับเหล่าเด็กช่างโดยเฉพาะ หากไม่มีตัวละครแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งบุ้ง ยาท ตาของยาท หรือกระทั่งป้ามะ เอง เราก็คงไม่สามารถเข้าถึงเรื่องราวในภาพยนตร์ได้

 

 

4Kings II ไม่เพียงแค่การเป็นภาพยนตร์ที่ดึงศักยภาพของนักแสดงออกมาได้เต็มที่เท่านั้น แต่ยังเป็นภาพยนตร์ที่เป็นตัวอย่างของการพัฒนาในภาคต่อ อุดช่องโหว่ กลบจุดด้อย ต่อยอดส่วนที่เข้มแข็ง ถ้ามองในแง่ของการเป็นภาพยนตร์เพียว ๆ แล้ว นี่เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากในปีนี้

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่