พอล ดาโน่ จากวายร้ายสุดจิต สู่ เบิร์ต เฟเบิลแมนส์ คุณพ่อผู้แสนน่ารักใน The Fabelmans

 

 

พอล ดาโน่ จากวายร้ายสุดจิต สู่ เบิร์ต เฟเบิลแมนส์

คุณพ่อผู้แสนน่ารักใน The Fablesman

 

เบิร์ต เฟเบิลแมนส์ ดูติดดินมากกว่ามิตซี่ ภรรยาของเขา แต่เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยรายละเอียดไม่แพ้กัน เขาคือทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นนักออกแบบคอมพิวเตอร์รุ่นบุกเบิก ผู้ซึ่งการทำงานด้านระบบจัดเก็บข้อมูล ทำให้เขามีความก้าวหน้าในการทำงานอย่างมาก ในตอนแรก เขาทำงานอยู่กับอาร์ซีเอ จากนั้นก็ได้ทำงานกับเจนเนอรัล อีเล็คทริค เป็นงานที่ทำให้เขากับครอบครัว และเบนนี่ ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมงานของเขา ต้องอพยพจากนิวเจอร์ซี่ ไปยังอริโซน่า เบิร์ตมีความชื่นชมในตัวภรรยาของเขา และเป็นกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกเบื่อหน่ายที่เพิ่มขึ้นของเธอ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยเธอได้อย่างไร เขาเป็นพ่อที่น่ารัก และพอใจในทักษะฝีมือของแซมมี่ในฐานะคนทำหนัง ถึงแม้ว่าเขาจะต้องทำใจที่จะยอมรับการทำหนังของแซมมี่ว่าเป็นอะไรที่มากไปกว่างานอดิเรก

 

 

สำหรับบท เบิร์ต ซึ่งอิงตัวละครจาก อาร์โนลด์ พ่อของสปีลเบิร์ก เขาเลือก พอล ดาโน่ ผู้เคยได้รับคำชมจากผลงานมากมาย อาทิเช่น Little Miss Sunshine, There Will Be Blood และเมื่อเร็วๆ นี้ก็คือ The Batman ซึ่งเขารับบทเป็น เอ๊ดเวิร์ด แนชตัน หรือ เดอะ ริดเลอร์ วายร้ายของเรื่อง “พอลมีลักษณะแบบพวกปฏิบัตินิยม และมีความอดทน มีความลึก และมีความใจดีเหมือนกับพ่อของผมครับ” สปีลเบิร์กกล่าว “ผมชื่นชมบทบาทที่เขาเลือกแสดงอยู่แล้ว และวิธีที่เขาปล่อยตัวเองหายไปในตัวละครเหล่านั้น ผมหวังว่าจะเกิดสิ่งเดียวกันนี้ เมื่อเขาได้รู้จักพ่อของผมครับ”

ดาโน่บอกว่า เขาสามารถดึงเอาประวัติครอบครัวของเขามาใช้เพื่อแสดงเป็น เบิร์ต เฟเบิลแมนส์ “เบิร์ตและอาร์โนลด์ต่างก็เป็นชายชาวอเมริกันที่ทำทุกอย่างอย่างมีแก่นสารตามสไตล์ของชายยุคนั้น เขาทำให้ผมนึกถึงคุณปู่ของผม ดังนั้น ผมจึงพยายามนำบางสิ่งจากชีวิตของผมเองมาใช้เพื่อทำให้มันมีความเป็นเรื่องส่วนตัวอย่างเท่าเทียมกันครับ” ดาโน่กล่าว “หลายครั้ง มันกลายเป็นเสื้อคลุมที่หนักอึ้งที่ผมต้องใส่ กับการต้องแสดงเป็นตัวละครที่อิงมาจากพ่อของสตีเวน แต่มันเป็นประสบการณ์ที่งดงามมากครับ”

 

 

ดาโน่ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ของเขาเพื่อจะเข้าใจความคิดของเบิร์ต ดาโน่ได้ทำการค้นหาในอีเบย์ เพื่อหาซื้อคู่มือพนักงานจากหลายบริษัทในยุคนั้น เพื่อจะทำความเข้าใจถึงหลักการของ “มนุษย์ทำงานบริษัท” ของอเมริกาในช่วงกลางศตวรรษให้ดีขึ้น เขาทำการศึกษาภาพถ่าย คลิปวิดีโอของครอบครัว และเครื่องบันทึกเสียงของอาร์โนลด์ สปีลเบิร์ก “หนึ่งในเทปแรกที่ผมฟัง อาร์โนลด์พูด และผมก็จะถอดความ ‘เครื่องไฟฟ้าคือวิถีชีวิตของผม’” ดาโน่เล่า “ณ ตรงนั้น ผมเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้คือวิศวกรโดยหัวใจจริงๆ เรียกว่าในทุกอณูของตัวเขาเลย ดังนั้น ผมพยายามที่จะสัมผัสกับส่วนนั้นของตัวผม หรือส่วนนั้นของตัวเขา” สุดท้าย ดาโน่ซื้อชุดประกอบเครื่องรับวิทยุแบบง่ายจากอินเตอร์เน็ต และสร้างมัน และเขาก็นั่งดูวิดีโอในยูทู้ปจำนวนนับไม่ถ้วนที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิศวกร  “ผมไม่ใช่วิศวกร แต่ผมไม่อยากไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยเมื่อต้องพูดถึงสิ่งเหล่านั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ” ดาโน่บอก “ผมต้องเรียนรู้และต้องทำมันให้ชำนาญมากพอ เพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องแสดงครับ”

แรงบันดาลใจในชีวิตจริงสำหรับ เบิร์ต เฟเบิลแมนส์ มีน้ำหนักตัวมากกว่าดาโน่ แต่สปีลเบิร์กไม่ต้องการให้ดาโน่เพิ่มน้ำหนักขึ้น อย่างไรก็ดี ดาโน่อยากใส่พลังของอาร์โนลด์ลงไปในการแสดงของเขาด้วย เขาขอให้ มาร์ก บริดเจส ซึ่งเป็นคนออกแบบเครื่องแต่งกาย ออกแบบเข็มขัดตะกั่ว ซึ่งดาโน่สามารถสวมใส่เอาไว้ใต้เสื้อผ้าได้ เขาใช้มันในระหว่างการถ่ายทำสองสามวันแรก เพื่อให้ได้ความรู้สึกถึงศูนย์กลางของแรงดึงดูดของตัวละครตัวนี้ จากนั้น เขาก็ทิ้งมันไป

 

 

ดาโน่และแกเบรียล ลาเบลล์ ได้พบช่วงเวลาที่จะสร้างความผูกพันกันก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มเพาะปลูกเคมีในแบบพ่อกับลูกชายที่เหมาะสมระหว่างตัวละครของพวกเขา แต่ดาโน่ไม่ต้องการเตรียมตัวกับมิเชลล์ วิลเลียมส์ เพราะเขากับเธอเดินเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้โดยรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว “ผมว่าเราไม่ต้องส่งข้อความหากันด้วยซ้ำ” ดาโน่เล่า “เรารู้จักกันและกันดีพอที่จะรู้ว่าเราทั้งคู่จะแสดงได้ เราโชคดีที่ได้บทภาพยนตร์ที่เขียนมาดีมาก และเราก็รู้ว่าเราอยู่ในมือคนเก่งอย่างสตีเวน ทั้งหมดที่เราต้องทำก็แค่ไปปรากฎตัวในบท เบิร์ตและมิตซี่ และไปอยู่ที่นั่นเพื่อกันและกันก็พอครับ”
 

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่